"อึ" กับ "ใบหน้า" ใกล้กันยิ่งกว่าที่คิด
*ใครเคยอึแล้วหันกลับไปมองมันอย่างพินิจพิจารณาบ้าง?? ไม่มี!! ยิ่งทุกวันนี้เครื่องสุขภัณฑ์หรูหราทันสมัย อึก็ยิ่งกลายเป็นสิ่งที่ถูกทำให้ "ห่างเหิน" จากเจ้าของมันมากขึ้น
*ทั้งๆ ที่อึนั่นแหละคือ "สัญญาณ" ที่ดีของระบบสุขภาพคนเรา เพราะมันจะสะท้อนว่า เรากินอะไรเข้าไป และร่างกายซึมซับได้มากน้อยแค่ไหน ซึ่งสัญญาณเหล่านี้สุดท้ายก็ส่งผลต่อความอ่อนวัยของใบหน้าคนเราด้วย "อึ" จึงสัมพันธ์กับ "ใบหน้า" อย่างใกล้ชิด!!
*ใครเคยอึแล้วหันกลับไปมองมันอย่างพินิจพิจารณาบ้าง?? ไม่มี!! ยิ่งทุกวันนี้เครื่องสุขภัณฑ์หรูหราทันสมัย อึก็ยิ่งกลายเป็นสิ่งที่ถูกทำให้ "ห่างเหิน" จากเจ้าของมันมากขึ้น
*ทั้งๆ ที่อึนั่นแหละคือ "สัญญาณ" ที่ดีของระบบสุขภาพคนเรา เพราะมันจะสะท้อนว่า เรากินอะไรเข้าไป และร่างกายซึมซับได้มากน้อยแค่ไหน ซึ่งสัญญาณเหล่านี้สุดท้ายก็ส่งผลต่อความอ่อนวัยของใบหน้าคนเราด้วย "อึ" จึงสัมพันธ์กับ "ใบหน้า" อย่างใกล้ชิด!!
*เพื่อเป็นการเปลี่ยนทัศนคติใหม่เกี่ยวกับอึให้ทุกคน เราจึงนำเรื่องราวดีๆ จากงานเสวนา หัวข้อ "อึ ดั๊นลอยฟ่องเพราะกินของดี ดีท็อกซ์ เดลี หน้าใสนะคะ" ซึ่งจัดขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้ ที่โรงพยาบาลกล้วยน้ำไท 1 โดยมีนักโภชนาการ และผู้เชี่ยวชาญ รวมทั้งสาวๆ หน้าใสมาเป็นผู้ให้รายละเอียด
*เริ่มจาก อัจฉรา พรไพศาลสกุล นักโภชนาการ โรงพยาบาลกล้วยน้ำไท อธิบายให้เห็นภาพการเดินทางของอาหารหลังจากผ่านเข้าสู่ปาก แล้วถูกย่อยด้วยกระเพาะอาหารก่อนจะส่ง ต่อไปยังลำไส้เล็กจนถึงลำไส้ใหญ่ "อาหารจะตกอยู่ในลำไส้ประมาณ 60-100 ชั่วโมง
*แต่เนื่องจากว่า ระบบการย่อยของคนเราถูกสร้างขึ้นมาสำหรับสัตว์กินพืช ลำไส้จึงไม่เชี่ยวชาญในการย่อยเนื้อ จึงทำให้เกิดคราบตกค้างตามซอกของลำไส้ซึ่งนานวันมันก็จะเกิดการสะสมและเป็นสาเหตุของอาการท้องผูก
*ดังนั้น เราต้องกินผักซึ่งเป็นไม้กวาดลำไส้ซึ่งจะอยู่ในลำไส้ไม่เกิน 1 วัน จะช่วยชะล้างคราบเหล่านั้นออกไปพร้อมกันด้วย ควรรับประทานผักอย่างน้อย 1 ถ้วยต่อวัน เพื่อทำให้ขนาดของอึพอดีกับลำไส้และขับเคลื่อนผ่านไปได้สะดวก
*อึ สามารถบอกได้ว่าใครสุขภาพดีทั้งร่ายกายและใบหน้าอย่างไร พ।ญ।เรขา กลลดาเรืองไกร แพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรงพยาบาลกล้วยน้ำไท 1 ได้วิเคราะห์ลักษณะของอึในแต่ละรูปแบบว่า เจ้าของอึ เลือกรับประทานอาหารได้ถูกต้องหรือไม่
*พร้อมอยากให้ทุกคนได้เปลี่ยนพฤติกรรมใหม่ โดยหันหลังกลับไปดูสิ่งที่ขับถ่ายออกไป ว่ามีหน้าตาเป็นอย่างไรบ้าง เพื่อจะได้เข้าใจสุขภาพของตัวเองได้ถูกต้อง
*"อึ" ที่ลอยฟ่อง เป็นก้อนแตกกระจาย ไม่มีกลิ่นเหม็น ไม่เป็นก้อนยาวๆ ถ่ายได้ง่ายโดยไม่ต้องเบ่ง สีเขียวขี้ม้า หรือเหลืองทอง บ่งบอกว่าลำไส้ใหญ่สะอาด ไม่มีคราบตะกอนหมักหมม ถือเป็นคนที่เลือกรับประทานอาหารได้ถูกต้อง และมีสุขภาพดี
*ส่วนถ้าใคร "อึ" เป็นก้อน จมน้ำ แต่ไม่ถึงกับเหม็นมาก สีค่อนข้างคล้ำ แสดงว่า กินเนื้อสัตว์เยอะกว่าผัก ถือว่าเป็นคนสุขภาพปานกลาง ซึ่งควรจะต้องรับประทานผักให้มากกว่านี้
*แต่ถ้าสังเกตดูแล้วเห็นว่า "อึ" ติดชักโครกเป็นคราบเหนียวหนึบหนับ จับเป็นก้อน มีกลิ่นเหม็นตลบอบอวลสีออกน้ำตาลดำ เข้าขั้นน่าเป็นห่วง เพราะบ่งบอกว่า สุขภาพย่ำแย่ เนื่องจากกินแต่เนื้อสัตว์ ไขมัน แป้งขัดขาวหรือข้าวขาวที่ไม่มีเส้นใย และที่สำคัญไม่ได้มีผักในอาหารแต่ละมื้อเลย
*"อึ" ที่เข้าข่ายวิกฤติและต้องรีบปรึกษาแพทย์โดยด่วน เพราะอาจก่อให้เกิดมะเร็งลำไส้ได้ คือ อึที่ เหนียวข้น สีดำเข้ม มีเลือดออกมากับอุจจาระ มีอาการท้องเสียสลับกับท้องผูกบ่อยๆ น้ำหนักตัวลดเร็วและเบื่ออาหาร
*ควรแก้ไขโดยการกิน ผักผลไม้เยอะๆ รวมถึงธัญพืชที่มีไฟเบอร์สูง ซึ่งจะช่วยดูดซึมและขนถ่ายโปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไปใช้ประโยชน์มากขึ้น ช่วยเพิ่มเนื้ออุจจาระ ทำให้ขนาดพอเหมาะกับการบิดตัวของลำไส้ใหญ่ ลดความเสี่ยงจากการเป็นมะเร็งและท้องจะไม่ผูกอีกต่อไป
*การดื่มน้ำเยอะๆ วันละ 6-8 แก้ว กินอาหารที่ถูกสุขลักษณะ ออกกำลังกาย และขับถ่ายเป็นเวลา จะทำให้สุขภาพดีและมีใบหน้าที่สดใส อ่อนกว่าวัย
*เชื่อ ไม่เชื่อ ก็ต้องลองนำไปใช้กันดู พร้อมทั้งอย่าลืมพิสูจน์ "อึ" ของตัวเองหลังปล่อยออกมาทุกครั้ง เป็นวิถีทางที่ง่ายที่สุดในการตรวจสอบสุขภาพของตัวเอง