สวัสดีค่ะ ยินดีต้อนรับทุกๆท่าน Welcome to...



วันเสาร์ที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

ชะลอ...ความชราด้วยตนเอง


ทำไมเมื่ออายุมากขึ้นผิวพรรณจึงร่วงโรยและเกิดริ้วรอย คำถามนี้เกิดขึ้นในใจเมื่อถึงวัยวัน คณะทำงานจึงภูมิใจเสนอข้อมูลชะลอความชราสำหรับ หนุ่มสาว ที่เหลืออยู่ไม่มากนัก

มูลเหตุที่เร่งให้เราแก่ขึ้น เราคงทราบแล้วว่าอนุมูลอิสระเป็นตัวทำลายความเป็นหนุ่มเป็นสาวของเรา โดยอนุมูลอิสระตัวร้ายถูกเร่งให้เกิดจากแสงแดด จ้าที่เข้มข้นด้วย รังสี UV เกินปกติ จากความบกพร่องของบรรยากาศของโลกที่ถูกทำลาย มลพิษจากโรงงานอุตสาหกรรม การสูบบุหรี่และสารปนเปื้อน ในอาหารที่เรารับประทานทุกวัน อนุมูลอิสระเหล่านี้จะส่งผลทำลายผิวหนังในขั้นกำพร้า (Epidermis) และชั้นหนังแท้ (Dermis) ซึ่งประกอบด้วยเนื้อเยื่อ 2 ชนิด คือ คอลลาเจน และอีลาสติน ที่มีบทบาทสำคัญในการทำให้ผิวหนังดูเต่งตึง และมีความยืดหยุ่นดี ซึ่งจะถูกทำลายให้บางลง และสูญเสียความ ชุ่มชื้น ทำให้ผิวพรรณดูแห้งกร้าน ไม่เรียบเนียน และผิวหนังมีการยุบและทรุดตัวลงเกิดริ้วรอยของความชรา ทำความรู้จักวิธีการชะลอความชรา

การเอาใจใส่ดูแลผิวพรรณอย่างใกล้ชิดเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการชะลอการเกิดริ้วรอย และไม่จำเป็นต้องเริ่มเมื่อคุณเข้าสู่วัยชราด้วย เพราะเมื่อมีริ้วรอย เกิดขึ้นแล้วก็ยิ่งต้องหาทางป้องกันและรักษาไม่ให้ผิวเสียมากขึ้นด้วยวิธีการต่อไปนี้ จะช่วยรักษาผิวสวยของคุณไว้ได้

*การเติม Collagen และ Elastin ที่ขาดหายไปจากเซลล์ผิว
โดยการเติม Collagen และ Elastin อันเป็นส่วนประกอบของ ผิวหนังเอาไว้ ซึ่งจะเริ่มเสื่อมสลายลงไปเมื่อมีอายุ 25-30 ปี ปัจจุบันมีการค้นคว้าหาแหล่งธรรมชาติที่จะเพิ่มส่วนประกอบนี้ และเราต้องขอขอบคุณ นักวิทยาศาสตร์ที่ทำการวิจัยจนพบว่า Marine Protein ซึ่งเป็นโปรตีนชนิดพิเศษที่ได้จากปลาทะเลลึก มีส่วนสำคัญ ในการทดแทนองค์ประกอบ สำคัญของผิวหนังเอาไว้

*การรับประทานสารที่ต่อต้านอนุมูลอิสระ
สารที่ต่อต้านอนุมูลอิสระเปรียบเสมือนวีรบุรุษที่เกิดจากธรรมชาติช่วยกำจัดตัวการสร้าง อนุมูลอิสระให้หมดฤทธิ์เงียบหายไป ไม่สามารถทำลายเซลล์ชั้นผิวหนัง ซึ่งได้แก่ เบต้าคาโรตี วิตามินซี วิตามินอี และโดยเฉพาะ OPC สารสกัด จากเมล็ดองุ่น ซึ่งเป็นสารที่มีประสิทธิภาพสูงในการกำจัดอนุมูลอิสระ (Super Antioxidant) มีคุณสมบัติเพิ่มความแข็งแรงของเนื้อเยื่อคอลลาเจน และอีลาสตินที่ปกป้องจากการถูกทำลาย

*การรักษาความชุ่มชื้นไว้กับเซลส์ผิว
การสูญเสียความชุ่มชื้นจากเซลส์ผิว ทำให้เกิดความหยาบกร้าน และริ้วรอย การเลือกใช้ครีม ที่ให้ความชุ่มชื้น (Moisturizer) โดยเฉพาะครีมที่ให้ความชุ่มชื้นชนิดพิเศษ ซึ่งมีประสิทธิภาพมากกว่า Moisturizer โดยทั่วไปสังเกตได้จากส่วนผสม ที่มีส่วนประกอบประเภท ไฮโดรไลซ์ อีลาสติน, AHA, โปรคอลลาเจน, โซเดียม พีซีเอ เป็นต้น

ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์บางสูตรที่นำสารเหล่านี้มารวมกัน ซึ่งน่าจะเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมาก บางท่านอาจใช้วิธีรับประทานตัวช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับ ผิว เช่น น้ำมันจากดอกอิฟนิ่ง พริมโรส หรือวิตามิน อี ที่ได้จากแหล่งธรรมชาติจากจมูกข้าวสาลี (Wheatgerm Oil)

*ปกป้องผิวสวยจากแสงแดด
การใช้ครีมกันแดดที่มีประสิทธิภาพสูง ในการป้องกันแสงแดดจ้าอย่างในบ้านเรา ซึ่งมีผลิตภัณฑ์ให้ เลือกมากมาย สังเกตได้ว่ามีส่วนผสมของ Tatannuium Dioxide จึงช่วยสะท้อนกลับรังสีได้ดี บางผลิตภัณฑ์อาจมีการผสมกับน้ำมันจากดอกอิฟนิ่ง พริมโรส ก็ช่วยบำรุงให้ผิวให้ดูขาวสดใสเพิ่มขึ้นอีกด้วย

*การผลัดเซลล์ผิว
ผิวพรรณของเรามีการผลัดเซลล์ผิวใหม่ทุก 4 สัปดาห์ แต่ในผิวชราจะมีการผลัดเซลส์ผิวที่ช้าลง จึงมีเซลส์ผิวที่ ตายแล้วสะสมบนผิวหน้าของเราทำให้ดูหมองคล้ำหยาบกร้าน และเหี่ยวย่น การใช้ผลิตภัณฑ์ที่สกัดมาจากผลไม้อย่าง AHA จะช่วยเร่งการผลัด เซลล์ผิวและกระตุ้นการสร้างเซลล์ใหม่เพิ่มขึ้น

สูตรสำเร็จชะลอความชรา การดูแลผิวพรรณต้องใช้หลายวิธีประกอบกันหลายอย่างดังที่กล่าวมา การยืดเวลาให้กับนาฬิกาจึงต้องใช้การดูแลสุขภาพ การออกกำลังกายและการคลายความเครียด การทำให้จิตใจให้เบิกบาน และการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ หากคุณได้เลือกเทคนิคดังกล่าว มาใช้บ้าง คุณจะเป็นเจ้าของสุขภาพผิวงามตราบนานเท่านาน

จาก...วารสารการศึกษานอกโรงเรียน
*

วันอังคารที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2553

คลิปวีดีโอ สอนแต่งหน้า แต่งตาสาววัยรุ่น





อุปกรณ์:

อุปกรณ์แต่งหน้า โทนสี ม่วง-น้ำเงิน, ขนตาปลอม, มาสคราร่า, ที่ปัดแก้ม, ลิปสติกสีอ่อน

วิธีทำ:

1. ลงสีขอบตาก่อน แล้วตามด้วยโทนสีต่างๆ ที่ใกล้เคียงกัน

2. ติดขนตาปลอม

3. ลงสีลิปสติก สีอ่อน (ดูรายละเอียดได้ในคลิปวีดีโอ)

วันเสาร์ที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

อยากจะบอกให้รู้ว่า นี้คืออุทาหรณ์สอนใจหญิง...


เป็นเรื่องของน้องสาวแท้ๆของผมเอง ไม่เคยคิดว่าผู้หญิงจบโท MbA จากอเมริกาจะตกอยู่ในชะตากรรมแบบนี้

เรื่องมีอยู่ว่า...หลังจากจับได้ว่าแฟนที่ทำงานอยู่ในร้านอาหารไทยแห่งหนึ่งในโอไฮโอหลอกฟันน้องใหม่ที่ทำงานด้วยกันได้ระยะหนึ่ง น้องเอ(นามสมมติ) จึงตัดสินใจเลิกกับแฟนหนุ่มที่คบกันมาเกือบ 7 ปี และตัดสินใจว่าจะไม่ไว้ใจผู้ชายที่ไหนอีกแล้ว ถึงแม้ว่าแฟนหนุ่มจะขอคืนดีด้วยและสัญญาว่าจะไม่ทำอีก แต่น้องเอไม่ให้อภัย

หลังจากกลับมาทำงานที่ประเทศไทยชีวิตน้องเอประสบความสำเร็จแทบทุกด้าน เพราะความที่มีดีกรีจบจากนอก และยังเป็นสาวสวย หุ่นดี ฉลาดปราดเปรียว มีชายหนุ่มหน้าตาดี ร่ำรวยหลายนายมาตามติดพัน แต่น้องเอยังไม่กล้ารับรักใครซักคนเพราะยังเจ็บปวดจากแผลเดิม เธอคิดว่า รักกับใคร่ ผู้ชายส่วนมากหลงใหลกับความใคร่มากกว่า

วันหนึ่งฝนตกหนัก รถเธอเสียจำเป็นต้องจอดทิ้งไว้ที่ทำงาน เธอแย่งเรียกแท็กซี่กับคนอื่นๆด้วยความยากลำบากโดยไม่อาจรู้ได้เลยว่าแท็กซี่คนนั้นจะขับพาเธอออกนอกเส้นทางเพื่อลวงเธอไปข่มขืนในเวลาต่อมา

เธอถูกทำร้ายแต่โชคดีที่มีคนเข้ามาช่วยเธอไว้ได้ทันที่ข้างทางด้วยความเป็นสุภาพบุรุษ และเข้ามาในจังหวะที่พอดี จึงทำให้เธอประทับใจหนุ่มร่างสูงคนนั้นเข้าอย่างจัง

และเหมือนเป็นฟ้าประทานคนดีๆมาให้เธอ บ้านของเขาอยู่ห่างบ้านเธอเพียงไม่กี่ซอย เธอคิดว่าช่างบังเอิญที่ได้พบเขาหลายครั้งในวันต่อๆมา ชายหนุ่มมีฐานะไม่ร่ำรวยกว่าเธอแต่เป็นคนขยันเอาการเอางาน รวมทั้งเข้าอกเข้าใจนิสัยผู้หญิงเป็นอย่างดี ไม่นานนักเขาก็สามารถพิชิตใจน้องเอได้และได้เสียกันในเวลาต่อมา

น้องเอเคยคิดว่าจะไม่มีอะไรกับผู้ชายคนไหนอีกจนกว่าจะแต่งงาน หลังจากที่เลิกกับแฟนเก่า ดังนั้นน้องเอจึงเล่าให้ชายหนุ่มที่รักและไว้ใจฟังว่าเธออยากแต่งงานกับเขา ชายหนุ่มไม่ปฏิเสธแต่ขอเวลาตั้งตัว 1 ปี

นับวันความรักและความไว้ใจในตัวหนุ่มคนรักจะมีมากขึ้นเรื่อยๆ จนวันหนึ่งน้องเอได้รับเมล์จากเพื่อน เป็นภาพน้องเอร่วมรักกับแฟนหนุ่มที่บ้าน ด้วยความตกใจและกังวลคิดอะไรไม่ออก ที่พึ่งก็คือแฟนหนุ่มคนเดียวเพราะเรื่องนี้น้องเอจะให้พ่อแม่รู้ไม่ได้ จึงรีบโทรศัพท์นัดแนะกับแฟนหนุ่มเพื่อที่จะไปหาทันที

คืนนั้นหญิงสาวได้แต่ร้องไห้เมื่อรู้ว่าภาพนั้นเป็นฝีมือที่คนรักได้ตั้งกล้องอัตโนมัติไว้ถ่ายเองเพื่อเก็บไว้ดูเล่น แต่ถูกน้องชายขโมยไปโชว์เพื่อนจนในที่สุดก็โลดแล่นอยู่ในอินเตอร์เน็ต

น้องเอรับน้ำส้มจากแฟนหนุ่มมากินไปร้องไห้ไป ไม่ถึง 10 นาทีก็รู้สึกแปลกๆตัวและหน้าร้อนจัด อึดอัดที่หน้าอก และอยากมีเซ็กให้ได้ แฟนหนุ่มเข้ามากอดเธอและช่วยให้เธอสมหวัง แล้วเธอก็สะลึมสะลือหลับไป

ขณะครึ่งหลับครึ่งตื่นเธอได้ยินเสียงแฟนหนุ่มคุยโทรศัพท์... เริ่มไหวตัวแล้วเฮีย เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมจะอัดยาให้มันอีกตอนส่งตัวไปที่ห้องไอ้พวกนั้นมันจะได้อยากเยอะๆ, เออ มันดันเห็นรูปในเน็ตซะก่อน แต่ไม่ต้องห่วงสินค้าดีๆแบบนี้ไม่พลาดหรอก, พูดภาษาอังกฤษคล่องเลย ผมเคยฟังมันพูดกับ......

โดยไม่รอฟังจนจบน้องเอรู้แต่ว่าต้องหนีออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด อ่อนแรงที่ขา หล่อนล้มลงทำของบนโต๊ะหล่น คนที่เคยได้ชื่อว่าเป็นแฟนรักเดินเข้ามารวดเดียวถึงตัวเธอแล้วฉีดยาให้ 1 เข็ม น้องเอพยายามดิ้นแต่ไม่มีแรง น้ำยาสีน้ำเงินวิ่งเข้าเส้นเลือดอย่างน่ากลัวแล้วความรู้สึกเจ็บปวดก็ตามมา จากนั้นเธอก็เริ่มร้อนอยากมีsex อีก ผู้ชายที่เธอเคยรักและไว้ใจที่สุดยืนมองเธอดิ้นทุรนทุรายอยู่เบื้องหน้าแล้วออกไป

สักพักก็มีผู้ชายอีก 2 คนเข้ามาข่มขืนเธอแล้วฉีดยาแบบเดิมให้เธออีกครั้ง จากนั้นเธอก็ถูกพาตัวไปยังโรงแรมแห่งหนึ่งแถวนานา เธอทั้งกลัว ทั้งเจ็บ ทั้งแค้น แต่ฤทธิ์ยาทำให้เธอไม่มีแรง มีแต่ความปรารถนาทางกาย ก่อนที่เธอถูกนำไปส่งให้พวกแขกในห้อง เธอถูกฉีดยาอีก 1 เข็มและถูกขู่ว่ารูปที่เธอมีsexด้วยความเต็มใจในวันนี้ทั้งหมดจะถูกนำไปวางตามท้องตลาดถ้าเธอไปแจ้งตำรวจ

หลังจากวันนั้นน้องเอได้แต่กลัวผู้คนภายนอกไม่สามารถคุยกับใครและสบตาใครได้อย่างเดิม ไม่นานภาพที่พวกมันเก็บไว้ก็ออกมาเป็นที่ฮือฮาของพวกวัยรุ่นที่ได้รับ forword mail มาเป็นทอดๆโดยคิดว่าเป็นเรื่องสนุก และเป็นภาพสมยอมของผู้หญิงร่าน

ผมเองก็เป็นคนหนึ่งที่เคยชอบสะสมและ forword mail ทำนองนี้ไปให้เพื่อน แต่วันนี้มาเจอกับน้องสาวตัวเองเข้า ถึงได้รู้ว่ามันเจ็บเพียงไหน

พวกมันทำงานเป็นทีม ผมสู้คดีแต่แพ้ไป 3 รอบเพราะมีนักการเมืองหนุนพวกมันอยู่ เราถูกขู่ฆ่าทั้งครอบครัวอยู่ครับ

ช่วยกันหยุดการย่ำยีผู้หญิงดีๆเถอะครับ เมื่อเจอกับครอบครัวตัวเองผมจึงได้รู้ วอนทุกท่านอย่าสนับสนุนสื่อลามกและการขายตัวเลยครับ เก็บเรื่องนี้ไว้เป็นอุทาหรณ์ด้วย

อุทาหรณ์สอนหญิง จงย้ำเตือนตนเองเสมอ

อย่าไว้ใจทาง อย่าวางใจคน จะจนใจเอง...

ปล. เรื่องราวนี้...อยากจะบอกให้รู้ว่า นี้คืออุทาหรณ์จริงๆๆๆ...ผมได้รับจากที่เพื่อนๆส่งเมล์ต่อๆมา อ่านแล้วระวังตัวด้วยนะครับ
*

วันศุกร์ที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

บนเส้นทาง...กว่าจะมาเป็น "พยาบาล"


กบนอกกะลา - พยาบาล1 23.7.10 1/3 – 3/3



กบนอกกะลา - พยาบาล2 30.7.10 1/3 – 3/3



คลิกซ้ายที่นี่... เลือกดู "กบนอกกะลา" ย้อนหลังทุกๆตอน


"พยาบาล..เส้นทางแห่งความเสียสละ"


นาทีแห่งความเจ็บปวดด้วยโรคร้ายหรือความป่วยไข้ หรือนาทีเป็นนาทีตายแห่งชีวิตของผู้คนจากอุบัติเหตุเภทภัย แสงสว่างจากเครื่องแบบสีขาว คือความหวังที่จะต่อลมหายใจ ความหวังนั้นไม่ได้มีเพียงแพทย์เท่านั้น เพราะการเยียวยารักษาพยาบาลความป่วยไข้ ผ่าตัด หรือช่วยชีวิต จะไม่สามารถเกิดขึ้นได้เลย หากไม่มีบุคคลสำคัญที่ เรียกว่า "พยาบาล"

"พยาบาล" เป็นได้ทั้งชายและหญิง เพียงแต่ควรจะสูงกว่า 150 ซ.ม. และน้ำหนักไม่ต่ำกว่า 40 ก.ก. ไม่เช่นนั้น การดูแลช่วยเหลือคนไข้อาจทำได้ไม่สะดวกและไม่มีประสิทธิภาพ เพราะมีหน้าที่หลักสำคัญ คือ การดูแลช่วยเหลือคนไข้ในทุกๆเรื่อง เป็นทั้งแขนขาเวลาที่คนไข้ไม่สามารถขยับเขยื้อนเองได้ เป็นเหมือนปากเวลาที่คนไข้พูดไม่ได้ ดื่มน้ำ หรือกินข้าวเองไม่ได้ และเป็นเหมือนดวงตา เวลาที่คนไข้มองไม่เห็น ขณะเดียวกันก็เป็นเหมือนอวัยวะต่างๆของหมอ เพราะมีหน้าที่กระทำการทุกอย่างตามที่แพทย์วินิจฉัย ตั้งแต่ฉีดยา ทำแผล เจาะเลือด ให้น้ำเกลือ ฯลฯ จนถึง ปั๊มหัวใจ เพื่อรักษาชีวิต

"พยาบาล" คือผู้ที่มีวิชาความรู้ในการดูแลมนุษย์ทุกคน ตั้งแต่ก่อนเกิด คือเมื่อแม่ตั้งครรภ์ จนกระทั่งคลอดลูก เรียนรู้วิธีการดูแลทารกแรกเกิด ดูแลเด็กจนเติบโต ดูแลผู้ใหญ่ในฐานะผู้ป่วย ไปจนถึงคนเฒ่าคนแก่ที่ไม่สามารถดูแลตัวเองได้ในยามที่เรียกว่า ไม้ใกล้ฝั่ง จนกระทั่งลมหายใจเฮือกสุดท้ายแห่งชีวิต จึงจะพ้นจากภาระหน้าที่ความรับผิด- ชอบของผู้ที่ได้ชื่อว่า "พยาบาล" และ

"พยาบาล" คือผู้ที่ต้องสลับผลัดเปลี่ยนกันปฏิบัติหน้าที่ตลอด 24 ชั่วโมง เพราะความเจ็บไข้ได้ป่วย คลอดลูก อุบัติเหตุ อาชญากรรม ไปจนถึงวินาศภัย เป็นเรื่องที่สามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา "พยาบาล" จึงต้องพร้อมเสมอสำหรับการทำหน้าที่ในห้องฉุกเฉิน ห้องคลอด และห้องผ่าตัด นอกเหนือจากการดูแลชีวิตความเป็นอยู่ของคนป่วยที่ต้องพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลทั้งวันทั้งคืน

"พยาบาล" จึงไม่ใช่เพียงการประกอบอาชีพ เพื่อการมีรายได้ แต่ยังเป็นวิชาชีพ ที่ต้องพร้อมสำหรับการเผชิญหน้ากับทุกสถานการณ์แห่งความหดหู่ โศกเศร้า และกดดันกับนาทีเป็นนาทีตายของทุกชีวิต และพร้อมที่จะเสียสละทุ่มเทแรงกายแรงใจ เพื่อการดูแลช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยความเมตตา

ขอขอบคุณ : http://www.tvburabha.com/
*

วันศุกร์ที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2553

สวยใส เป็นธรรมชาติ

ขอบคุณคนงาม presenter: คุณ วรรษา ภู่ทองเกษ ห้องตรวจยาย เอ๊ย...ห้องตรวจตา อาคารเฉลิมพระเกียรติ ชั้น 5 โรงพยาบาลนพรัตนราชธานี กรุงเทพมหานคร 02-517-4270ถึง9 ต่อ 7524 ท่านที่มีปัญหาเรื่อง "ตา" เชิญ ขอคำแนะนำเบื้องต้นได้นะจ๊ะ...เรื่อง "ยาย" มะเกี่ยวเน้อ ต้องห้องสูตินู่น...
*

สวยใส เป็นธรรมชาติ...

มีเทรนด์ใหม่ในการแต่งหน้าที่เป็นธรรมชาติ แค่แต่งแต้มสีสันบนใบหน้าแบบบางๆ ก็ช่วยให้คุณดูสวยสดใสได้ค่ะ

เริ่มจากรองพื้น: ก่อนลงรองพื้นให้ทำความสะอาดผิวหน้าให้สะอาด จากนั้นเลือกรองพื้นที่เข้ากับสีผิวของคุณทาเพียงบางๆ โดยเกลี่ยให้ทั่วทั้งใบหน้าเพื่อปกปิดริ้วรอยค่ะ

แต่งตา: ลงสีเปลือกตาด้วยอายแชโดว์ โดยไล่น้ำหนักของสีจากหางตาไปถึงหัวตา สำหรับเทรนด์การลงสีตาในช่วงนี้ จะลงสีเข้มที่หางตาแล้วค่อยๆไล่สีมาเรื่อยๆ จนถึงกลางเปลือกตาเท่านั้นทำให้ดวงตาดูมีสีสัน ไม่จืดชืด จากนั้นให้เขียนขอบตาด้วยพู่กันปลายเล็ก ควรเลือกสีน้ำตาลเข้มเพื่อช่วยให้ตาดูโตขึ้น ลักษณะการลงเส้นขอบตาของคนตาเล็ก ก็ให้ลงเส้นใหญ่หน่อย เพื่อช่วยให้ตาดูโตขึ้น ส่วนคนที่ตาโตดูสวยอยู่แล้ว ก็แค่กรีดเส้นเล็กๆไปตามเส้นดวงตาเป็นการเน้นให้ตาดูคมขึ้น

สีคิ้ว: เพื่อความเป็นธรรมชาติของสีคิ้วแนะนำให้ใช้อายแชโดว์สีน้ำตาลกับแปรงปลายตัด เขียนคิ้ว โดยลงไม่ต้องเข้มมากจนเกินไป คุณอาจจะใช้ดินสอสีน้ำตาลแดงเขียนคิ้วซ้ำอีกครั้ง เพื่อให้คิ้วดูคมและโฉบเฉี่ยวขึ้นค่ะ

ปัดแก้ม: ปัดแก้มให้ดูมีเลือดฝาด วิธีการปัดนั้นให้ปัดเฉพาะตรงช่วงโหนกแก้ม ซึ่งจะทำให้สีไม่สดจนเกินไป แถมยังทำให้คุณดูเป็นสาวที่มีสุขภาพผิวที่ดี สดใสด้วยค่ะ

ทาปาก: อย่าลืมตบท้ายด้วยการทาลิปสติกนะคะ
*

*

5 ขั้นตอน ง่ายๆ สู่ผิวสวยใส

ขอบคุณคนงาม presenter: คุณ วรรษา ภู่ทองเกษ ห้องตรวจยาย เอ๊ย...ห้องตรวจตา อาคารเฉลิมพระเกียรติ ชั้น 5 โรงพยาบาลนพรัตนราชธานี กรุงเทพมหานคร 02-517-4270ถึง9 ต่อ 7524 ท่านที่มีปัญหาเรื่อง "ตา" เชิญ ขอคำแนะนำเบื้องต้นได้นะจ๊ะ...เรื่อง "ยาย" มะเกี่ยวเน้อ ต้องห้องสูตินู่น...
*

5 ขั้นตอน ง่ายๆ สู่ผิวสวยใส...

1. ขัดผิว ควรใช้ผลิตภัณฑ์ขัดลอกที่อ่อนโยนต่อผิว ควรขัดลอกผิวอาทิตย์ละ 2 ครั้ง

2. เพิ่มความชุ่มชื้น ถ้าผิวแห้ง ควรทาด้วยมอยเจอร์ไรเซอร์ และใช้ครีมที่มีความมันมากในเวลากลางคืน ถ้าผิวมันควรทามอยเจอร์ไรเซอร์ 2-3 นาทีก่อนแต่งหน้า

3. เอามือให้ห่างจากหน้า อย่าเอามือจับขนตา เท้าคาง เพราะอาจจะเพิ่มความสกปรกให้กับหน้าโดยไม่จำเป็น

4. ทำความสะอาดใบหน้า สำหรับคนที่แต่งหน้าเมื่อเสร็จจากงาน ควรล้างหน้าทันที

5. เมื่อเป็นสิว ถ้าคุณเป็นสิวมากแนะนำให้ไปหาแพทย์โรคผิวหนังโดยเฉพาะ อย่าจัดการปัญหาสิวด้วยตัวเองนะคะ

เป็นไงคะ วิธีการรักษาใบหน้าของคุณ ถ้าทำได้ครบทั้ง 5 วิธี คุณก็จะมีผิวสวยใส ได้ไม่ยากเลยค่ะ
*