สวัสดีค่ะ ยินดีต้อนรับทุกๆท่าน Welcome to...



วันเสาร์ที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

ดูแลจุดซ่อนเร้น ด้วย กระจกส่องจิ๋ม


ดูแลจุดซ่อนเร้น ด้วย กระจกส่องจิ๋ม

มะเร็งปากมดลูก…เป็นโรคมะเร็งที่พบมากเป็นอันดับ 1 ในผู้หญิงไทย

มะเร็งปากมดลูก…เป็นสาเหตุที่ทำให้ผู้หญิงไทยเสียชีวิตเฉลี่ยสูงถึง 7 คนต่อวัน

แม้จะเป็นโรคที่สามารถรักษาให้หายได้หากพบในระยะแรก แต่ปัจจัยสำคัญที่ทำให้หญิงไทยมีความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตด้วยโรคนี้ก็เป็นเพราะ “ความอาย” ของสาวๆ ที่จะไปตรวจภายในประจำปี

อย่าว่าแต่จะไปขึ้นขาหยั่งให้หมอตรวจ จะมีสาวไทยสักกี่คนที่เคยก้มลงสำรวจจุดเร้นลับในร่างกายของตัวเองด้วยวัฒนธรรมอันเสงี่ยมหงิมของไทยที่สอนกันมาแต่เล็กว่าเรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องน่าอาย หรือไม่ควรพูดถึง

มูลนิธิสร้างความเข้าเรื่องสุขภาพผู้หญิง จึงรณรงค์ให้สาวไทยหันมาเริ่มให้ความใส่ใจกับจุดเร้นลับของตัวเองเพื่อที่จะได้รู้เท่าทันเมื่อมีความผิดปกติเกิดขึ้นด้วย “กระจกส่องจิ๋ม”

กระจกส่องจิ๋ม เป็นยังไง...มีประโยชน์ยังไง...และมันแตกต่างกับกระจกที่ใช้ส่องหน้ายังไง เรื่องนี้เฉลยโดย ณัฐยา บุญภักดี ผู้ประสานงานมูลนิธิสร้างความเข้าใจเรื่องสุขภาพผู้หญิง (สคส.)

“กระจกบานนี้จะเป็นสัญลักษณ์ที่เอาไว้เตือนใจว่า เรามีกระจกหลายบานเอาไว้ดูหน้า ดังที่ผู้หญิงจะถูกบอกให้รักสวยรักงาม แต่อวัยวะเพศซึ่งก็เป็นเรื่องสำคัญเช่นกันกลับถูกละเลย ผู้หญิงกลับถูกสอนให้ไม่ไปยุ่ง ไม่ไปสัมผัส ดูแล เพราะเป็นของต่ำ ทำให้ผู้หญิงโตขึ้นมาโดยลึกๆ แล้วรังเกียจอวัยวะเพศตัวเอง”

ดังนั้นกระจกส่องจิ๋มจึงไม่ได้มีหน้าตาหรือลักษณะพิเศษที่แตกต่างจากกระจกส่องหน้าทั่วไป ส่วนใครที่อยากได้กระจกบานนี้เอาไว้เตือนใจ ณัฐยาบอกว่าไม่ใช่ว่าจู่ๆ จะเอาไปเดินแจกเพราะคงไม่มีประโยชน์ แต่จะแจกพร้อมการทำเวิร์กชอป ที่ สคส.ได้เชิญชวนผู้หญิงมาพูดคุยทบทวนกันว่าแต่ละคนถูกบอกถูกสอนมาอย่างไรเกี่ยวกับอวัยวะเพศ และสร้างผลอย่างไรในปัจจุบันพร้อมทั้งทำความรู้จักอวัยวะเพศหญิงให้ลึกซึ้ง เอารูปทางการแพทย์มาดูกันเพื่อเป็นการทำความคุ้นเคย และลดความอายเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้

“ผู้เข้าร่วมหลายคนพูดเลยว่าเพราะถูกสอนมาจึงทำให้ไม่ไปยุ่งกับส่วนเร้นลับของร่างกาย มีผู้หญิงอายุ 50 ปีแล้ว บอกว่ายังไม่เคยก้มดูของตัวเองให้ชัดๆ เลย ยิ่งเรื่องไปตรวจเช็คสุขภาพมะเร็งปากมดลูก ยิ่งไม่ต้องพูดถึง”

การที่เราไม่เคยสำรวจจุดซ่อนเร้นของตัวเอง ทำให้เราขาดการเอาใจใส่ด้านความสะอาด ทำความสะอาดผิดวิธี ใช้น้ำยาที่ไม่มีความจำเป็น และตระหนกตกใจเวลามีสิ่งต่างๆ เกิดขึ้น เช่น ตกขาว และกลิ่นผิดปกติ ซึ่งอาจไม่ใช่เรื่องผิดปกติ แต่เพราะเราไม่เคยสังเกตเท่านั้นเอง

ไม่ว่าจะกระจกส่องจิ๋ม หรือว่าการเวิร์กชอป จะทำให้เห็นความสำคัญของการดูแลเอาใจใส่ส่วนเร้นลับของตัวเองมากขึ้นและไม่อายเวลาที่ต้องไปตรวจภายใน หรือเมื่อมีปัญหาอะไรเกิดขึ้นก็ไม่อายที่ต้องไปปรึกษาหมอ

เห็นได้จากทุกครั้งที่ทำเวิร์กชอปเสร็จ คนจะมีกำลังใจพากันไปตรวจมะเร็งปากมดลูก ซึ่งทำให้ณัฐยาปลื้มใจว่ากระบวนการรณรงค์ได้ผล ทำให้ผู้หญิงรู้จักร่างกายตัวเอง และมีพฤติกรรมสุขภาพที่ถูกต้องมากขึ้นนั่นเอง

7 ขั้นตอน ตรวจภายในด้วยตนเอง

การเช็คสุขภาพใกล้ตัว อย่างการตรวจภายใน มักเป็นสิ่งที่ถูกผัดวันประกันพรุ่งอยู่เสมอ เรามีวิธีง่ายๆ ในการตรวจภายในด้วยตัวเอง ก่อนจะเดินทางไปตรวจกับคุณหมอมาฝากกัน

1. ล้างมือให้สะอาดก่อนเริ่มตรวจ จากนั้นจัดท่าของตัวเองว่าจะนั่งหรือนอนอย่างไรให้เห็นอวัยวะเพศของตัวเองได้ดีที่สุด

2. หากระจกที่สามารถใช้ถือมา 1 บาน

3. ใช้มือข้างหนึ่งที่ถนัดแยกแคมใหญ่ออกจากกัน มองและคลำดูว่ามีอะไรผิดปกติหรือไม่ เช่น ก้อน ตุ่มแข็ง ตุ่มน้ำ แผลรอยบวม หรือมีบริเวณที่สีเปลี่ยนไป

4. ใช้นิ้วแยกแคมเล็กออกจากกัน ตรวจหาความผิดปกติต่างๆ ตรวจดูที่บริเวณรูเปิดท่อปัสสาวะว่ามีอาการบวมแดงหรือมีแผลหรือไม่

5. ใช้นิ้วมือสองนิ้วสอดเข้าไปในช่องคลอด กดแยกหนังช่องคลอดออกจากกัน สังเกตตกขาว ถ้าเป็นสีขาวขุ่นเป็นมูกเหนียวหรือมูกใส มีกลิ่นคาวเล็กน้อย แสดงว่าปกติ แต่ถ้ามีลักษณะคล้ายคราบนมที่เด็กแหวะออกมา และมีอาการคันแสดงว่าอาจมีเชื้อราหรือเชื้อพยาธิในช่องคลอด ถึงเวลาที่ต้องไปพึ่งคุณหมอสูติฯ แล้ว

6. ใช้นิ้วมือคลำบริเวณส่วนล่างของแคมใหญ่ทั้งสอง โดยใช้นิ้วมือหนึ่งอยู่ในช่องคลอด และอีกนิ้วหนึ่งอยู่ที่ส่วนล่างของแคมใหญ่ ดูว่ามีก้อนคล้ายถุงน้ำบริเวณนั้นหรือเปล่า เพราะเป็นตำแหน่งของต่อมที่สร้างมูกออกมาช่วยหล่อลื่นในช่องคลอดซึ่งท่อที่ปล่อยมูกนี้เจอปัญหาอุดตันได้บ่อย ถ้าคลำได้เป็นก้อนนิ่มๆ ก็อย่าปล่อยทิ้งไว้นานจะทำให้อักเสบเป็นหนองได้

7. สุดท้ายตรวจบริเวณฝีเย็บและรูทวารว่ามีก้อนเนื้อที่เรียกว่า ริดสีดวงทวารหรือเปล่า ถ้ามีก็รีบปรึกษาหมอว่าจะมีวิธีรักษาอย่างไร ไม่อย่างนั้นจะลำบากเวลาขับถ่าย

หากตรวจแล้วพบสัญญาณไม่ดี อย่างรอยแดง อาจเป็นสัญญาณเริ่มต้นของโรคบางชนิด เช่นปากช่องคลอดอักเสบหรือมะเร็งปากช่องคลอด หรืออาการบวม อาจเกิดจากแมลงกัดต่อย หรือเป็นสัญญาณเตือนของโรคไต มะเร็งต่อมน้ำเหลือง มีไฝหรือจุดสีคล้ำ ดำ ก็ควรหมั่นสังเกตว่าจุดเหล่านี้ เข้มขึ้นหรือใหญ่ขึ้นหรือเปล่า มีตุ่มน้ำ อาจเกิดจากเริมหรือผิวหนังอักเสบที่อวัยวะเพศได้ และสัญญาณสุดท้ายมีก้อนเนื้อ ซึ่งอาจเป็นเนื้องอก หรือเกิดจากการอักเสบ

แม้จะรู้ขั้นตอนต่างๆ แล้ว การไปพบคุณหมอสูติฯ เพื่อตรวจภายในปีละครั้ง ก็ยังเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับผู้หญิงทุกคน อย่ามัวแต่อายเพราะกันไว้ก่อนก็ยังดีว่าตามรักษากันภายหลัง!

สำหรับผู้ที่สนใจ “กระจกส่องจิ๋ม” สามารถติดต่อขอรับได้ที่มูลนิธิสร้างความเข้าใจเรื่องสุขภาพผู้หญิง โทร. 02-591-1224

ที่มาจาก : สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ สสส.
*
*