สวัสดีค่ะ ยินดีต้อนรับทุกๆท่าน Welcome to...



วันเสาร์ที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

ทำอย่างไรไม่ให้เท้าป่วย


ทำอย่างไรไม่ให้เท้าป่วย

มาบำบัดรักษาเท้าของคุณด้วยการนวดกันเถอะ...

เราใช้เท้าทุกวี่ทุกวัน โดยเฉพาะสาวๆ บางคนก็สวมรองเท้าส้นสูงทรมานเท้าเข้าไปอีก หรือบางคนถูกรองเท้าบีบรัดจนเป็นแผลพุพอง ดังนั้น เราจึงควรถนอมเท้าคู่ชีวิตของเราให้ใช้งานได้นานๆ ดีกว่านะคะ

*เจล...ป้องกันเท้ามีปัญหา
เราสามารถหาเกราะป้องกันเท้าไม่ให้บาดเจ็บ เป็นแผลพุพอง หรือมีปัญหาเอ็นร้อนหวาย โดยการใช้แผ่นเจลพลาสเตอร์หรือแผ่นป้องกันหนังพุพองปิดตรงตำแหน่งที่โดนกดทับบ่อยๆ ก็จะป้องกันไม่ให้เท้าเป็นแผลพุพองได้

*แช่เท้าในน้ำอุ่นและน้ำเย็น
ศัลยแพทย์กระดูกชาวเยอรมัน ดร.อันเดรอาสคาร์ล จากเมืองเบอร์ลิน กล่าวว่าการแช่เท้าในน้ำอุ่นสลับกับน้ำเย็นเหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มีอาการปวดเมื่อยเท้า

ข้อดี…ช่วยให้เท้าและตลอดร่างกายได้รับการผ่อนคลาย นอกจากนี้มันยังช่วยกระตุ้นให้เลือดไหลเวียนดีที่เท้าและขา เพราะการใช้ขาตลอดทั้งวันก็อาจทำให้ปวดเมื่อยขา ซึ่งเราสามารถบำบัดได้ด้วยตนเอง

*นวดเท้า
การนวดเท้าเป็นสิ่งที่ดีมาก เพราะจุดผ่อนคลายที่เท้าจะได้รับการบริหาร ข้อแนะนำก็คือ ควรใช้อุปกรณ์ที่ทำจากไม้จะดีที่สุด เช่น ลูกขนเม่นหรือที่นวดเท้าตะปุ่มตะป่ำที่เราสามารถกลิ้งฝ่าเท้าไปมาได้

ข้อดี…เป็นการบริหารกล้ามเนื้อซึ่งจะช่วยให้เลือดไหลเวียนดีที่เท้าและขา นอกจากนี้ การยืดเหยียดนิ้วเท้าก็จะช่วยให้ผ่อนคลายได้ โดยใช้ฝ่ามือกดนิ้วเท้าทั้ง 5 พับลงสักครู่แล้วหงายนิ้วเท้าขึ้นโดยการกดเข้าหาหลังเท้าสลับกัน จากนั้นกางนิ้วเท้าออก ควรทำทุกวันเมื่อกลับถึงบ้าน

*เดินเท้าเปล่า
เราควรเดินเท้าเปล่าเท่าที่ทำได้ เพราะมันคือการบำบัดรักษาเท้าได้เป็นอย่างดี และเป็นวิธีที่เป็นธรรมชาติมากที่สุด ซึ่งเราสามารถทำเองได้

ข้อดี…เป็นการบริหารกล้ามเนื้อ และเป็นการนวดฝ่าเท้า ซึ่งมันจะช่วยให้เลือดไหลเวียนดีและช่วยในการทรงตัว เราจึงควรฝึกเดินเท้าเปล่ากับพื้นชนิดต่างๆ เช่นทรายและก้อนกรวดกลมที่ไม่บาดเท้า โดยอาจจะตั้งกระบะไว้ที่บ้านและเดินย่ำไปมา

*เล็บ...ขาวขึ้น
บางคนมีเล็บเหลือง สีคล้ำ ลองใช้แปรงกับน้ำมะนาวขัดดูสิค่ะ

*ยิมนาสติกเท้า
เราควรบริหารเท้าสม่ำเสมอ เช่น ใช้นิ้วเท้าหนีบก้อนหินไปมาก็จะช่วยให้เท้ากระปรี้กระเปร่าขึ้น หรือใช้นิ้วเท้าหนีบเก็บผ้าเช็ดมือ สลับกันไปมาทั้งเท้าซ้ายและเท้าขวา
*
*